เคยเป็นไหม ออกกำลังกายหนักแค่ไหน ไขมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลง? บทความนี้จะพาเป็นรู้จักนวัตกรรมลดไขมันส่วนเกิน “เฉพาะส่วน” โดยใช้ความเย็น หรือที่เรียกกันว่า Coolsculpting มาดูกันว่า สลายไขมัน Coolsculpting ดีอย่างไร? อันตรายไหม? ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล? ตอบทุกข้อสงสัยที่นี่

Coolsculpting คืออะไร?

Coolsculpting คือ เครื่องกำจัดไขมันส่วนเกินในร่างกายด้วยคลื่นความเย็นต่ำประมาณ -11 ถึง -13 องศา โดยใช้หลักการกำจัดเซลล์ไขมันด้วยกระบวนการไครโอไลโปไลซิส (Cryolipolysis) หรือการแช่แข็งนวัตกรรม 

การทำงานของ Coolsculpting จะส่งความเย็นไปกำจัดเฉพาะเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ไม่กระทบเซลล์ผิวหนังชั้นนอก หรือเซลล์ส่วนอื่น ๆ ซึ่งเซลล์ไขมันจะถูกแช่เย็นให้แข็งตัวและตายลง ก่อนจะถูกขับออกทางระบบกำจัดของเสียของร่างกาย ส่วนเซลล์ไขมันที่เหลือจะเรียงตัวใหม่ ทำให้ชั้นไขมันบางลง

ข้อดีของ Coolsculpting

• หุ่นกระชับโดยไม่ต้องพึ่งยา
• เห็นผลลัพธ์รวดเร็ว
• ไม่เจ็บและไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

Coolsculpting VS ดูดไขมัน แตกต่างกันอย่างไร?

การทำ Coolsculpting ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น ใช้เวลาน้อย หลังรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ในขณะที่การดูดไขมัน ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานถึง 1 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับอาการเจ็บบวมช้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะ (มีค่า BMI > 35) หรือต้องการกำจัดบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก หากมีไขมันน้อยกว่านี้ การลดไขมันด้วยความเย็นจะตอบโจทย์มากกว่า

ทำ Coolsculpting ส่วนไหนได้บ้าง?

สามารถสลายไขมัน Coolsculpting ได้ทุกส่วนที่มีไขมันส่วนเกิน โดยแต่ละส่วนจะใช้หัวดูดไขมันที่แตกต่างกัน เช่น

• ต้นแขน
• ต้นขา
• หน้าท้องบนและล่าง
• รอบเอว
• ใต้คาง
• สะโพก
• ปีกหลัง
• ใต้ราวนม
• ใต้รักแร้ (นมน้อย)

Coolsculpting เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน แต่ไม่อยากผ่าตัดดูดไขมัน
• ผู้ที่ต้องการลดไขมันเฉพาะส่วน
• ผู้ที่ต้องการสลายไขมันปริมาณปานกลาง (BMI < 30)
• ผู้ที่ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
• ผู้ที่ต้องการกระชับสัดส่วน
• ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้นหลังทำการรักษา
• ผู้ที่ออกกำลังกายแล้วไม่ได้ผล สัดส่วนยังคงเท่าเดิม

Coolsculpting ไม่เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่มีไขมันมากเกินไป หรือมีค่า BMI > 35 จะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้น้อย
• ผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
• ผู้ที่เป็นโรคแพ้ความเย็น โรคเลือดแข็งตัวผิดปกติ
• ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดในบริเวณที่ต้องการสลายไขมันไม่เกิน 6 เดือน
• ผู้ที่เป็นประจำเดือน
• ผู้ที่เป็นไส้เลื่อน

Coolsculpting เจ็บไหม?

ไม่มีอาการเจ็บ แต่ในช่วง 5-10 นาทีแรกของการทำ Coolsculpting อาจรู้สึกตึง เย็น และชาบ้างเล็กน้อย

Coolsculpting อันตรายไหม?

การสลายไขมันด้วยความเย็นด้วย Coolsculpting มีความปลอดภัยสูง ตัวเครื่องได้รับการยอมรับจากองค์การอาหารและยาทั้งของไทยและสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก และเซลล์อื่น ๆ นอกเหนือจากไขมัน

การเตรียมตัวก่อนทำ Coolsculpting

หลังจากพบแพทย์เพื่อประเมินสัดส่วนเรียบร้อยแล้ว ก่อนทำ Coolsculpting ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ สามารถใช้ชีวิตประจำวันตามปกติก่อนเข้ารับบริการได้

การดูแลตัวเองหลังทำ Coolsculpting

• สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ
• ทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
• ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อควบคุมสัดส่วน และไม่ให้เซลล์ไขมันที่ยังอยู่ขยายตัวและแบ่งตัวเพิ่มขึ้น

ผลข้างเคียงหลังทำ Coolsculpting

หลังทำ Coolsculpting ผิวหนังบริเวณที่ทำอาจมีอาการแดง หรือช้ำเล็กน้อย เนื่องจากแรงดูดของเครื่อง บางรายอาจรู้สึกคัน ระบม หรือแสบ บริเวณดังกล่าว แต่อาการเหล่านี้จะหายได้เองประมาณ 2-4 สัปดาห์ ไม่มีผลร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

สลายไขมันด้วยความเย็น ได้ผลไหม กี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

จะเริ่มเห็นผลประมาณ 3 สัปดาห์ และเห็นผลเต็มที่ 1-3 เดือน โดยผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองหลังทำ อย่างไรก็ตาม การทำ Coolsculpting จะช่วยลดเซลล์ไขมันประมาณ 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง ดังนั้น แนะนำให้ต่อเนื่องในจุดเดิมเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน ทั้งนี้ต้องอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์

สลายไขมันด้วยความเย็นที่ Mediwelle

โปรแกรมสลายไขมันด้วยความเย็นที่ Mediwelle จะใช้เครื่อง Coolswiss เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น -10 องศา สามารถสลายไขมันได้ถึง 28-32% โดยที่ไม่ต้องเจ็บตัวและไม่เกิดแผลใด ๆ หมดกังวลเรื่องอันตราย เพราะตัวเครื่องผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA) ประเทศไทย มาพร้อมหัวดูด 3 ขนาด รับกับส่วนโค้งเว้นบริเวณต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดหากคุณเป็นคนที่อยากกำจัดไขมันส่วนเกิน และมองหาวิธีที่ปลอดภัย การสลายไขมันด้วยความเย็นโดยใช้เครื่อง Coolsculpting หรือ Coolswiss เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ หากยังไม่แน่ใจ สามารถเข้ามาปรึกษาที่ Mediwelle แพทย์ผู้เชี่ยวชาญยินดีให้คำปรึกษา พร้อมวิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาทุกเคส เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด