ฝ้า กระ จุดด่างดำ ปัญหาผิวที่น่าหนักใจสำหรับใครหลาย ๆ คน เพราะเมื่อเป็นแล้วต้องใช้ระยะเวลาการรักษาค่อนข้างนานและมักกลับมาเป็นซ้ำ ใครที่เจอปัญหานี้อยู่ วันนี้เรามีวิธีรักษาฝ้า ทั้งรักษาฝ้าแบบธรรมชาติที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองและวิธีทางการแพทย์มาแนะนำในบทความนี้

ฝ้าคืออะไร?

ฝ้า คือ ปื้นหรือจุดเล็ก ๆ มีตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม เกิดจากการที่เม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนังทำงานมากขึ้นผิดปกติ มักพบในบริเวณที่มีโอกาสสัมผัสกับแสงแดดมาก ๆ เช่น ใบหน้า โหนกแก้ม คาง หน้าผาก ลำคอ เป็นต้น

ฝ้าเกิดจากอะไร?

หลายคนคงสงสัยว่าฝ้าเกิดจากอะไรได้บ้าง ปัจจัยที่ส่งผลให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกตินั่นเอง คือ ตัวการที่ทำให้เกิดฝ้า ซึ่งมีด้วยกันหลายปัจจัย ดังนี้

• แสงแดด รังสี UVA และ UVB จากแสงแดดจะกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินเพื่อกรองรังสียูวีที่มากระทบผิว ทำให้ผิวมีสีเข้มขึ้น จึงทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำได้
• สกินแคร์ การใช้ผลิตภัณท์ที่มีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวที่รุนแรง จะทำให้ผิวหนังมีความไวต่อแสง UVA และ UVB เพิ่มมากขึ้น จึงเพิ่มโอกาสให้ผิวหนังสร้างเม็ดสีเมลานิน
• ฮอร์โมน การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ส่งผลให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานมากขึ้น เช่น การตั้งครรภ์ การเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน การทานยาคุมกำเนิด

6 วิธีป้องกันและรักษาฝ้า วิธีไหนดีที่สุด

วิธีป้องกันและรักษาฝ้ามีทั้งการรักษาฝ้าด้วยวิธีธรรมชาติ การทาครีมบำรุง ตลอดไปจนถึงการรักษาฝ้าด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งผลลัพธ์และระยะเวลาการรักษาก็จะแตกต่างกัน โดยบทความนี้รวบรวมมาฝากกันถึง 6 วิธี ดังนี้

1.ทาครีมกันแดดเป็นประจำ

เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเกิดฝ้า ดังนั้นต้องพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดโดยตรง และทาครีมกันแดดก่อนออกไปกลางแจ้งเป็นประจำ โดยแนะนำเป็นครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป ค่า PA มากกว่า 2+++ ขึ้นไป และมีคุณสมบัติปกป้องผิวจากรังสี UV ได้ทั้ง UVA และ UVB

2.รักษาฝ้าด้วยสมุนไพร

พืชผักและผลไม้ที่หาได้ในครัวเรือนของเรา ก็สามารถนำมารักษาฝ้าได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง

• มะขามเปียก มีกรด AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำให้ฝ้าจางลงได้ นำมาทาหรือพอกบาง ๆ บริเวณที่เป็นฝ้า
• มะนาว จัดเป็นกรดผลัดเซลล์ผิว AHA เช่นกัน นำน้ำมะนาวแต้มลงบนบริเวณที่เป็นฝ้า ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
• หัวไชเท้า มีสารไกลโคไซด์ (Glycossides) ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน นำมาบดละเอียดแล้วผสมกับน้ำผึ้งหรือว่านหางจระเข้ แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ไม่เกิน 5 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้ไม่เหมาะกับคนที่ผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย

3.ทาครีมรักษาฝ้า

การครีมบำรุงที่มีส่วนประกอบของ วิตามินซี, กรดโคจิก (Kojic Acid), อาร์บูติน (Arbutin), AHA และไทอามิดอล (Thiamidol) สามารถช่วยรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าให้จางลงได้ ช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอขึ้น แต่ต้องเป็นครีมที่ได้รับการยืนยันจากแพทย์ผิวหนังเท่านั้น ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) เพราะหากใช้มากเกินไป ผิวหนังบริเวณนั้นอาจเกิดด่างขาวเป็นจุด ๆ ได้ และแนะนำทาครีมกันแดดควบคู่กันไปอย่างสม่ำเสมอ

4.เลเซอร์รักษาฝ้า

เลเซอร์รักษาฝ้า เป็นการยิงพลังงานความร้อนเพื่อกำจัดเม็ดสีเมลานินบริเวณที่เกิดฝ้าโดยตรง ซึ่งเครื่องเลเซอร์รักษาฝ้าที่นิยม ได้แก่ เลเซอร์ Q-Switched ND:Yag, Picosecond Laser แต่หลังจากยิงเลเซอร์จะมีการตกสะเก็ดและอาจทำให้ผิวไวต่อแสง ดังนั้น 1-2 สัปดาห์หลังจากทำเลเซอร์ ต้องหลีกเลี่ยงแสงแดด และบำรุงผิวเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ยังมีการรักษาฝ้าด้วย IPL (Intense Pulsed Light) เป็นการใช้คลื่นแสงหลายความยาวคลื่นยิงไปยังผิวหนังให้เกิดความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำถูกทำลาย ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น ฝ้าลดเลือนลง

5.ฉีดเมโสลดฝ้า

การฉีดเมโสลดฝ้าหรือที่เรียกกันว่าเมโสหน้าใส เป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวชั้นหนังแท้โดยตรง โดยตัวยาจะช่วยควบคุมให้เม็ดสีเมลานินทำงานลดลง นอกจากนี้การฉีดเมโส จะช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและเต่งตึง

6.กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี

การกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีขนาดเล็ก จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว พร้อมทั้งฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ฝ้าตื้น กระ และจุดด่างดำดูจางลง ช่วยให้ใบหน้ากระจ่างใส

รักษาฝ้าหายขาดไหม?

ฝ้ารักษาให้หายขาดได้ยาก แต่วิธีทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาข้างต้น สามารถรักษาฝ้าให้จางลงจนดูใกล้เคียงกับผิวปกติได้เลยทีเดียว หลังจากนั้นคนไข้ต้องดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการป้องกันเพื่อไม่ให้ฝ้ากลับมา โดยหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดฝ้า เช่น แสงแดด การรับประทานยาคุมกำเนิด การทาครีมที่มีส่วนประกอบของไฮโดรควิโนน เป็นต้น

โปรแกรมรักษาฝ้าที่ Mediwelle

สำหรับคนที่ไม่แน่ใจจะรักษาฝ้าด้วยวิธีไหนดี ที่ Mediwelle เรามีแพทย์ที่ดูแลด้านปัญหาผิวพรรณโดยเฉพาะ พร้อมนวัตกรรมเลเซอร์รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ที่ทันสมัยอย่าง Medlite C6 นวัตกรรมเลเซอร์ที่ผสมผสานเลเซอร์ 2 ชนิด อย่าง Q-Switched และ Nd:YAG สามารถทำลายเม็ดสีในผิวชั้นตื้นและชั้นลึกได้แม่นยำ โดยคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บและไม่ก่อให้เกิดบาดแผลภายหลังทำการรักษา และมีโปรแกรม Spot Away Plus เพื่อรักษาฝ้าด้วยเทคนิคที่ผสมผสานการรักษาด้วยเลเซอร์ Medlite C6 , Face IV การส่งวิตามินการแพทย์เข้มข้นสำหรับรักษาฝ้า ร่วมกับการฝังเข็มลดฝ้า กระ เพื่อกระตุ้นให้เม็ดสีแตกตัวและเร่งกระบวนการให้ร่างกายกำจัดเม็ดสีเหล่านี้ออกอย่างรวดเร็ว เพื่อลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ช่วยให้ผิวใสเรียบเนียนพร้อมออกงานได้อย่างมั่นใจ