หากพูดถึงการกำจัดขน หลายคนอาจมีคำถามว่าควรกำจัดขนด้วยวิธีแบบไหนดี ถึงจะปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ในปัจจุบันมีวิธีการกำจัดขนให้เลือกหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น การถอน โกน แว็กซ์ จี้ด้วยกระแสไฟฟ้า และเลเซอร์ เป็นต้น ในหลาย ๆ ครั้งหลังกำจัดขนไปแล้วกลับพบว่าผิวมักไม่เรียบเนียน เป็นขนคุด หรือเกิดแผลได้ รวมทั้งบางวิธีก็สร้างความเจ็บปวดขณะกำจัดขน และยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวรอีกต่างหาก
วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีกำจัดขนให้ทุกท่านได้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองสามารถนำไปปรับใช้กันได้ เพื่อผิวที่เนียนสวยไร้ขน ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป มาศึกษาข้อมูลเหล่านี้ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีกำจัดขนของทุกคนไปพร้อมกันได้ที่นี่
ทำความรู้จักกับเส้นขน
ก่อนจะรู้ว่าวิธีกำจัดขนแบบไหนปลอดภัยและดีที่สุดนั้น มาทำความรู้จักกับเส้นขนกันก่อนว่าคืออะไร? เส้นขนประกอบด้วยโปรตีน ที่เรียกว่าเคราติน (Keratin) เหมือนกับเล็บ และจะงอกมาจากรูขุมขนภายใต้ชั้นผิวหนังสามารถพบได้ทั่วร่างกาย แต่จะไม่พบบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และริมฝีปาก
เส้นขนสามารถแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ขนเวลลัส (Vellus Hair) และขนเทอร์มินัล (Terminal Hair)
- ขนเวลลัส (Vellus Hair) มีหน้าที่รักษาอุณหภูมิในร่างกายบริเวณนั้น ๆ ให้มีความคงที่ โดยมีลักษณะขนอ่อนสั้น ๆ บาง และมีสีอ่อน จะพบได้ตามใบหน้า หลัง และหน้าอก ในเพศหญิงบางรายอาจมีขนชนิดนี้เข้มกว่าบริเวณอื่น จนเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เป็นสาเหตุให้สาว ๆ หลาย ๆ คนขาดความมั่นใจได้
- ขนเทอร์มินัล (Terminal Hair) มีหน้าที่ช่วยป้องกันผิวหนังจากการโดนกระแทกและเกิดการเสียดสี โดยจะมีลักษณะเส้นหนา ใหญ่ และยาวกว่าขนเวลลัส เช่น เส้นผมบนหนังศีรษะ ขนบริเวณจุดซ่อนเร้น และขนรักแร้ สำหรับในเพศชายอาจพบขนเทอร์มินัลนี้เกิดขึ้นตามทั่วร่างกายและใบหน้าได้ด้วย
5 วิธีกำจัดขนแบบไหนดีที่สุด
ในปัจจุบันนี้มีวิธีกำจัดขนไม่พึงประสงค์อยู่หลายวิธี ส่วนใหญ่แล้วมีจุดประสงค์เพื่อรักษาความสะอาดของร่างกายและความสวยงามเป็นหลัก แต่ก็มีบางกรณีที่กำจัดขนเพื่อรักษาความผิดปกติของขนส่วนต่าง ๆ ตามร่างกาย เช่น โรคมนุษย์หมาป่า (Hypertrichosis) จะพบว่ามีลักษณะขนที่ยาวปกคลุมไปทั้งตัว และโรครูขุมขนอักเสบหรือขนคุด (Keratosis Pilaris) ที่มักจะเกิดเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นได้ตามทุกส่วนของร่างกายที่มีขน เป็นต้น
ซึ่งวิธียอดฮิตที่นิยมสมัยนี้มีด้วยกันถึง 5 วิธี ล้วนแล้วมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รวมไปถึงผลลัพธ์หลังทำก็ต่างกันไปในแต่ละวิธี มาติดตามวิธีกำจัดขนไม่พึงประสงค์เหล่านี้ไปพร้อมกันได้เลย
1. ถอนขน
การถอนขน เป็นวิธีการกำจัดขนด้วยการใช้แหนบถอนขนดึงขนทั้งเส้นออกมา เป็นการกำจัดเฉพาะส่วนหรือบางบริเวณที่มีขนขึ้นไม่มากเท่าไหร่นัก โดยจะแนะนำให้ดึงเส้นขนบริเวณโคนออกมา จะช่วยให้ถอนได้ถึงรากขน หลังจากการถอนขนแล้ว ให้เช็ดทำความสะอาดแหนบถอนขนให้ดีด้วยการใช้แอลกอฮอล์เช็ดในทั้งก่อนใช้และหลังใช้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อได้
- ผลลัพธ์ : หลังจากใช้วิธีถอนขนนี้ ขนจะหายไปอยู่ได้ประมาณ 3-8 สัปดาห์ จากนั้นจะมีเส้นขนงอกขึ้นมาใหม่อีกรอบ
- ข้อดี : มีความสะดวก สามารถทำเองได้ มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญคือประหยัด
- ข้อเสีย : ใช้ระยะเวลานานพอสมควร ให้ความรู้สึกเจ็บปวดและมีผิวแดงบริเวณที่ถอนชั่วขณะหนึ่ง อีกทั้งยังมีโอกาสเกิดขนคุดได้ ในกรณีที่ดึงเส้นขนขาดจากกัน แต่รากขนยังคงติดอยู่ที่ผิว
2. โกนขน
การโกนขนเป็นวิธีการกำจัดขนแบบชั่วคราว โดยใช้ใบมีดโกนขนหรือใช้เครื่องโกนขนไฟฟ้า วิธีนี้เป็นวิธียอดฮิตในผู้ชาย จะใช้กำจัดขนด้วยการโกนหนวดหรือโกนขนบริเวณใบหน้า และในผู้หญิงบางคนก็นิยมใช้โกนขนบริเวณร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโกนขนรักแร้ ขา แขน และบริเวณจุดซ่อนเร้น
การโกนขนที่ถูกวิธี จะต้องโกนตามแนวขนและให้ขนบริเวณนั้น ๆ เปียกเล็กน้อย จะทำให้โกนขนได้ง่าย และทำให้ขนไม่แข็งจนเกินไปด้วย สำหรับการโกนขนบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือบริเวณที่ผิวอ่อนโยนบอบบาง จะแนะนำให้ใช้ครีมโกนขนร่วมด้วย เพื่อลดความเสี่ยงการระคายเคืองต่อผิว
- ผลลัพธ์ : หลังโกนขน ขนจะหายไปเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ และไม่เกิน 3 วัน ก็จะเริ่มเห็นตอขนกลับมาดกดำชัดเจนเช่นเคย
- ข้อดี : สะดวก รวดเร็ว มีขั้นตอนง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ทำให้เจ็บหรือแสบผิว
- ข้อเสีย : ขนขึ้นใหม่ไว และขนที่งอกขึ้นมาใหม่หลังจากการโกนจะมีเส้นที่หนาและแข็ง ทำให้เกิดอาการคันบริเวณผิวรอบ ๆ ได้
3. แวกซ์ขน
การแวกซ์ขน เป็นวิธีกำจัดขนที่ช่วยถอนขนออกมาทั้งเส้น มักนิยมใช้เป็นแวกซ์ร้อน ซึ่งจะใช้ขี้ผึ้งอุ่น ๆ ทาบริเวณที่ต้องการกำจัดขนจากนั้นจะวางทับด้วยแถบผ้า เมื่อขี้ผึ้งแห้งก็จะให้ดึงผ้าพร้อมเส้นขนที่ติดอยู่ออกมาทันที สำหรับการแว็กซ์เย็น มักจะพบเป็นลักษณะแผ่นแปะสำเร็จรูปแกะใช้งานได้ทันที และสามารถทำเองได้ง่าย ๆ
- ผลลัพธ์ : หลังแวกซ์ขน ขนจะหายไปอยู่ได้ประมาณ 3-6 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะเริ่มมีขนขึ้นมาใหม่ แต่หากทำถี่ ๆ หลาย ๆ ครั้ง ระยะการงอกของขนก็จะนานยิ่งขึ้น จะช่วยลดจำนวนครั้งในการแวกซ์ขนได้
- ข้อดี : ทำให้ผิวเรียบเนียน ขนที่ขึ้นมาใหม่ไม่แข็ง
- ข้อเสีย : มีความเจ็บปวดขณะทำค่อนข้างมาก อาจเกิดรอยแดง ตุ่มนูน และเกิดการระคายเคืองของผิวได้
4. กระแสไฟฟ้ากำจัดขน
การกำจัดขนด้วยกระแสไฟฟ้า โดยการใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายเข็มขนาดเล็ก ทำการสอดลงไปในรูขุมขน จากนั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าทำลายรากขน จะช่วยกำจัดขนได้ถึงต้นตอของปัญหา ซึ่งจะนิยมใช้กำจัดขนบริเวณเล็ก ๆ เช่น คิ้ว และหนวดบาง ๆ ในผู้หญิงเป็นต้น
- ผลลัพธ์ : สามารถกำจัดขนได้ในระยะยาว เรียกได้ว่ากำจัดขนได้แบบกึ่งถาวร จำนวนขนที่กลับมาขึ้นใหม่จะค่อย ๆ ลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ
- ข้อดี : กำจัดขนได้ระยะยาว ตรงจุด และลดจำนวนการเกิดใหม่ของเส้นขนได้จริง จัดการได้ทั้งขนบางและขนเส้นหนา
- ข้อเสีย : ใช้เวลานานทำให้เกิดความเจ็บปวดเล็กน้อยขณะทำ ค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ผิวแห้ง อาจทำให้เกิดแผลและตกสะเก็ดได้
5. เลเซอร์ขน
เลเซอร์ขน ถือเป็นวิธียอดฮิตที่สุด ที่นิยมใช้ในการกำจัดขนได้แบบเกือบถาวร โดยการยิงแสงเลเซอร์ไปยังรูขุมขน เพื่อยับยั้งการสร้างเส้นขนใหม่ ๆ ทำให้เส้นขนบางลงเรื่อย ๆ อย่างเห็นผลได้ชัด อีกทั้งยังช่วยให้ผิวเรียบเนียน ขาวกระจ่างใสยิ่งขึ้น
- ผลลัพธ์ : ให้ผลลัพธ์ดีมากในผู้ที่มีผิวขาวและมีเส้นขนดำ เพราะแสงเลเซอร์จะสามารถจับเม็ดสีเมลานินในเส้นขนสีดำได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ช่วยจัดการกับเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อดี : มีประสิทธิภาพและให้ผลดีระยะยาว 6 เดือน ถึง 1 ปี ขนที่ขึ้นใหม่จะน้อยลงเรื่อย ๆ จากเส้นหนาก็จะเหลือเพียงเส้นขนบาง ๆ เท่านั้น
- ข้อเสีย : เพื่อการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร ในช่วงแรกๆต้องทำอย่างต่อเนื่อง
สรุปบทความ
การกำจัดขนที่ไม่พึงประสงค์มีด้วยกันหลายวิธี แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะให้ผลลัพธ์ในช่วงระยะสั้น ๆ ถึงกึ่งถาวร สำหรับบางวิธีก็พบว่าหลังทำไปไม่นาน ขนก็กลับมายาวใหม่ โดยระยะเวลานี้จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ แต่หากท่านไหนต้องการวิธีกำจัดขนที่มีประสิทธิภาพ ให้ผลการรักษายาวนาน สามารถปรึกษาได้ที่ Mediwelle เรามีโปรแกรมกำจัดขนถาวร ที่จะช่วยแก้ปัญหาเส้นขนขึ้นบ่อยที่มาก่อกวนใจคุณ
ซึ่ง Mediwelle เราเป็นศูนย์บริการสุขภาพครบวงจร มีการใช้เครื่องมือและตัวยาที่มีคุณภาพสูง ด้วยทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่มากไปด้วยประสบการณ์มากมาย เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ความยั่งยืน และผลลัพธ์ที่ออกมาให้เป็นที่พึงพอใจของผู้รับบริการมากที่สุดเป็นหัวใจสำคัญ