ผิวไหม้แดด ทำให้ผิวแดง แสบร้อน และยังทำให้ผิวหมองคล้ำอีกด้วย เป็นอาการที่ไม่มีใครอยากเผชิญ แต่อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่าแดดประเทศไทยร้อนมาก บางครั้งแค่การทาครีมกันแดดอย่างเดียวก็ไม่เพียงพอ กว่าจะกลับมารักษาผิวให้กระจ่างใสก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้ระยะเวลานานอยู่พอสมควร วันนี้ Mediwelle จะพาทุกท่านมารู้จักกับอาการผิวไหม้แดดกันว่าเกิดจากอะไร? สามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง? มาคลายข้อสงสัยเหล่านี้ไปพร้อมกันได้ที่นี่เลย
ผิวไหม้แดดเกิดจากอะไร
ผิวไหม้แดด เกิดจากการที่ผิวสัมผัสกับรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีจากแหล่งธรรมชาติ รวมทั้งจากหลอดไฟต่าง ๆ ด้วย หากผิวของเราสัมผัสกับแสงแดดแรง ๆ เป็นระยะเวลานาน ก็จะทำให้ผิวไหม้แดด ก่อให้เกิดปัญหาผิวคล้ำเสีย และสีผิวดูไม่สม่ำเสมอ
นอกจากนี้การทานยาบางชนิดอย่างด็อกซีไซคลิน (Doxycycline) จะส่งผลทำให้ผิวไวต่อแสงมากยิ่งขึ้นรวมทั้งผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวกับความผิดปกติของเม็ดสี อย่างเช่นผู้ที่เป็นโรคผิวเผือก (Albinism) และโรคด่างขาว (Vitiligo) ล้วนเกิดผิวไหม้ได้ง่ายกว่าคนผิวปกติด้วยเช่นกัน
ผิวไหม้แดดมีอาการอย่างไร
สำหรับให้ในหัวข้อนี้จะพาทุกท่านมาดูกันว่าผิวไหม้แดดมีอาการอย่างไรบ้าง? โดยส่วนใหญ่มักพบการดำเนินไปของอาการดังต่อไปนี้
- ในระยะแรกจะแสดงอาการขึ้นหลังจากสัมผัสแสงแดดประมาณ 2-6 ชั่วโมง จะพบว่าผิวหนังเริ่มแดง และแสบร้อนตามผิวหนัง
- เมื่อผ่านไปประมาณ 1 วัน ในบริเวณผิวที่ไหม้แดดจะเริ่มแสดงอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย มักพบอาการระคายเคือง พุพองเป็นตุ่มน้ำ และสร้างความเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
- เมื่อผ่านไปประมาณ 2-3 วัน ผิวจะคันและลอก เพราะอยู่ในช่วงฟื้นฟูและกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 8 วันโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับอาการและสภาพผิวของแต่ละบุคคล
5 วิธีฟื้นฟูจากอาการผิวไหม้แดด
หลังจากที่รู้ถึงอาการของผิวไหม้แดดเกิดจากอะไร? กันแล้ว ในหัวข้อนี้จะมาแนะนำถึง 5 วิธีการฟื้นฟูผิวจากอาการผิวไหม้แดด ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาผิวไหม้ ผิวคล้ำเสีย และผิวสองสีไปด้วยวิธีที่สามารถนำไปปฏิบัติตามกันได้ด้วยตนเอง โดยมีวิธีดังต่อไปนี้
1. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด
วิธีการหลักที่จะช่วยป้องกันผิวไหม้แดด คือ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรง หากเราเริ่มรู้สึกแล้วว่ามีความแสบร้อนที่ผิว หรือผิวเริ่มแดงแล้ว ให้เดินหลบแดดโดยทันที ซึ่งมีผลวิจัยพบว่าในช่วงเวลาประมาณ 10.00-16.00 น. ในช่วงนี้แสงแดดจะค่อนข้างแรงและอันตรายกว่าช่วงเวลาอื่น เนื่องจากจะมีรังสียูวี (UV) เข้มข้นมากกว่าปกติ หากสัมผัสแสงยูวีโดยตรงเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการผิวไหม้แดดได้
หากคุณมีตัวช่วยดี ๆ ที่จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้ป้อมปราการผิว ปกป้องผิวจากสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบของผิวอย่างการทำ Face IV ซึ่งเป็นโปรแกรมส่งวิตามินเข้มข้นและอาหารผิวเกรดทางการแพทย์เข้าสู่ใต้ชั้นผิวด้วยเทคโนโลยีแรงดันน้ำและออกซิเจนความเร็วสูง สามารถช่วยบำรุงผิวได้โดยไม่ต้องง้อเข็มเลย มอบผิวที่แข็งแรงสวยสู้แดดมากยิ่งขึ้น
2. ล้างตัวด้วยน้ำเย็น
หากสัมผัสแสงยูวีจนเริ่มมีอาการผิวแสบร้อน การล้างตัวด้วยน้ำเย็นจะสามารถช่วยลดอาการผิวไหม้แดดได้ดี และช่วยปลอบประโลมผิวที่เกิดการอักเสบหลังจากที่เผชิญกับแสงแดดมาเป็นระยะเวลานานได้ดี นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมที่น่าสนใจในการช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดด
3. ทาครีมบำรุงหรือเจลว่านหางจระเข้
อาการผิวไหม้แดดสามารถแก้ไขและบรรเทาให้เบาลงได้ด้วยการทาครีมบำรุงหรือการทาเจลว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นตัวช่วยฮอตฮิตในการช่วยดูแลและฟื้นฟูสภาพผิว สามารถช่วยบำรุงผิวได้หลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวได้รับการฟื้นฟูจากการถูกทำร้ายด้วยแสงแดด
- ลดการระคายเคืองผิวจากแสงแดดได้ดี
- ช่วยสมานผิว ซ่อมแซมป้อมปราการผิว ช่วยรักษาผิวไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ช่วยปลอบประโลมผิว และลดอาการผิวหมองคล้ำจากการสัมผัสกับแสงยูวีได้
4. ใช้ครีมกันแดด
ในบางครั้งการหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องสัมผัสกับแสงยูวีก็อาจทำได้ยาก ทำให้การทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ ที่ช่วยลดโอกาสเกิดผิวไหม้แดดได้ โดยควรทาครีมกันแดดทั้งใบหน้าและลำตัวเป็นประจำทุกวัน และควรทาซ้ำก่อนออกแดดทุกครั้ง แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 PA +++ ขึ้นไป เพื่อการปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้หากต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง แนะนำให้ใส่เสื้อคลุม หมวก และร่ม รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดร่วมด้วย นับเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้แสงแดด ไม่สามารถทำร้ายผิวเราได้โดยตรง
5. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำเป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนควรทำเป็นประจำ หลังจากสัมผัสกับสภาพอากาศร้อนหรืออยู่กลางแดดเป็นระยะเวลานาน สิ่งเราควรทำเป็นอันดับแรกในการปกป้องผิวและร่างกาย คือ การดื่มน้ำ เนื่องจากอากาศร้อนส่งผลให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น เกิดการเสียน้ำมากขึ้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกายผิวด้วยการดื่มน้ำ จะช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้แดดได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยชดเชยน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป
สรุปบทความ
ปัญหาผิวไหม้แดดไม่ใช่เรื่องไกลตัว นับเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหากับผิว ไม่ว่าจะเป็นอาการแสบ แดง ลอก และไหม้ รวมไปถึงอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ซึ่งภาวะนี้เกิดจากหลายปัจจัย ทำให้ต้องมีวิธีการฟื้นฟูและปกป้องผิวอย่างถูกวิธี
ทุกท่านที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ สามารถเข้ามาปรึกษาปัญหาผิวกับ Mediwelle กันได้ เพราะเราคือศูนย์ดูแล ฟื้นฟูความงาม สุขภาพและชะลอวัยด้วยเทคนิคทางการแพทย์แบบผสมผสาน ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมกับการแพทย์ทางเลือก เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นหลัก รับรองได้ว่าปัญหาผิวไหม้แดดของคุณจะไม่ใช่ปัญหากวนใจอีกต่อไปอย่างแน่นอน